สำหรับใครที่เคยใช้งานหรือรู้จักสายเคเบิ้ลไทร์ จะรู้ว่าสายเคเบิ้ลไทร์เป็นสายรัดอเนกประสงค์ที่มีความทนทานต่อแรงดึงที่สูงมากๆ ขาดยาก ดึงยังไงก็ไม่ขาดนอกจากจะตัดออก แล้วเคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมสายเคเบิ้ลไทร์จะต้องแข็งแรง ทนทานต่อแรงดึงขนาดนั้น วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าทำไมความทนต่อแรงดึงของเคเบิ้ลไทร์จึงมีความสำคัญในการเลือกซื้อ แล้วมีวิธีการเลือกซื้อสายเคเบิ้ลไทร์ให้เหมาะกับการใช้งานอย่างไรบ้าง?
เคเบิ้ลไทร์ เป็นสลักภัณฑ์ประเภทหนึ่ง หรือถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือเป็นสายสำหรับรัดวัสดุอุปกรณ์อเนกประสงค์ ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ในปัจจุบันสายเคเบิ้ลไทร์มีให้เลือกใช้งานอยู่ด้วยกันหลายประเภท ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้งานกันจะเป็นสายเคเบิ้ลไทร์ที่ผลิตจากพลาสติกไนลอน 6/6 ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเด่นด้านความเหนียว แข็งแรง ทนทานต่อการฉีก ดึง ยืด ทนต่อการกัดกร่อนและการเสียดสี รวมถึงยังสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดีด้วย เนื่องจากไนลอน 6/6 มีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ประมาณ 250 องศาเซลเซียส และเป็นพลาสติกชนิดที่มีการหลอมละลายก่อนการลุกไหม้ ทำให้ติดไฟได้ยาก ด้วยจุดเด่นเหล่านี้ไนลอน 6/6 จึงถูกนำมาใช้เป็นวัสดุหลักในการผลิตสายเคเบิ้ลไทร์
ความทนต่อแรงดึงของเคเบิ้ลไทร์สำคัญอย่างไร
ความทนต่อแรงดึง คือ ค่าความแข็งแรงสูงสุดที่วัสดุรับได้ก่อนเกิดการเสียรูปภายใต้ความเค้นสูงสุดที่กระทำต่อวัสดุ ถ้าพูดถึงความทนต่อแรงดึงของเคเบิ้ลไทร์ก็คือ ค่าน้ำหนักที่สายเคเบิ้ลไทร์ 1 เส้นสามารถรองรับได้มากที่สุดนั่นเอง โดยจะมีหน่วยวัดเป็นกิโลกรัม
คุณสมบัติโดยทั่วไปของสายเคเบิ้ลไทร์ คือจะต้องมีความแข็งแรง มีความทนทานสูง เพราะในการใช้งานส่วนใหญ่จะใช้สำหรับมัดสิ่งของต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานและไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งของ สายเคเบิ้ลไทร์จึงต้องมีคุณสมบัติทนทานต่อแรงดึงและมีความแข็งแรงทนต่อการฉีกขาด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมความทนต่อแรงดึงของเคเบิ้ลไทร์จึงมีความสำคัญ ในการผลิตสายเคเบิ้ลไทร์นั้น การทดสอบแรงดึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก วัสดุที่ใช้ในการผลิตจะต้องได้รับการทดสอบแรงดึงก่อน เพื่อให้สายเคเบิ้ลไทร์ที่ผลิตออกมามีคุณภาพ ตรงตามมาตรฐาน และสามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลือกสายเคเบิ้ลไทร์อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน?
ปัจจุบันสายเคเบิ้ลไทร์มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน นั่นทำให้สายเคเบิ้ลไทร์แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานที่ต่างกันด้วย สิ่งสำคัญในการเลือกสายเคเบิ้ลไทร์ คือการเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น
- สายเคเบิ้ลไทร์แบบสแตนเลส : เป็นสายเคเบิ้ลไทร์ที่ผลิตจากสแตนเลส หรือโลหะไร้สนิม มีตัวล็อกทำให้มีความแน่นหนาสูง ทนต่ออุณหภูมิและการกัดกร่อนของสารเคมีได้ดี เหมาะสำหรับใช้รัดสายไฟ งานเดินไฟฟ้าแรงสูง หรืองานที่มีความเกี่ยวข้องกับสารเคมี
- สายเคเบิ้ลไทร์แบบไนลอน : เป็นสายเคเบิ้ลไทร์ที่ผลิตจากพลาสติกไนลอน มีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรง ทนทานต่อสภาวะอากาศ ทนทานต่อแรงฉีก ดึง ยืด เหมาะกับการใช้รัดสายไฟ ทั้งงานภายในและนอกอาคาร หรืองานกลางแจ้ง
- สายเคเบิ้ลไทร์แบบหัวลูกศร : เป็นสายเคเบิ้ลไทร์ ที่บริเวณหัวมีลักษณะคล้ายลูกศร เพื่อช่วยเพิ่มความแน่นหนาในการรัดสิ่งของ เหมาะสำหรับใช้ในการจัดระเบียบสายไฟ มัดเส้นลวด
- สายเคเบิ้ลไทร์แบบพร้อมป้ายข้อมูล : เป็นสายเคเบิ้ลไทร์ที่มีความพิเศษมากกว่าแบบอื่นๆ คือจะมีป้ายข้อมูลไว้ให้เขียนรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้สามารถแยกหมวดหมู่สิ่งของได้ง่ายยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใช้ในการจัดเก็บสายไฟ วัสดุที่ต้องการแยกหมวดหมู่ที่ชัดเจน
อย่างที่บอกไปว่าสายเคเบิ้ลไทร์มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเพื่อให้สามารถใช้งานสายเคเบิ้ลไทร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดอันตราย หรือความเสียหายต่อสิ่งของ จึงควรเลือกใช้สายเคเบิ้ลไทร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด