ในปัจจุบันเคเบิ้ลไทร์ที่วางขายในท้องตลาด มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน มีคุณสมบัติต่างกัน ทำให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันด้วย สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำ 5 ประเภทของเคเบิ้ลไทร์ ที่ทนความร้อนได้มากที่สุด
สายเคเบิ้ลไทร์ (Cable Tie)
เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นสายรัด ใช้สำหรับจัดเก็บ หรือรวบรวมวัสดุที่มีลักษณะเป็นสายหรือเส้นต่างๆ เช่น สายไฟ สายสัญญาณ เพิ่มความสะดวกสบายในการดูแลรักษา และทำให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนใหญ่สายเคเบิ้ลไทร์จะถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อแรงดึง และสามารถรับน้ำหนักได้ดี ในท้องตลาดจะมีสายเคเบิ้ลไทร์อยู่หลายประเภท ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน ทำให้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป
5 ประเภทเคเบิ้ลไทร์ ที่ทนความร้อนได้มากที่สุด
ประเภทที่ 1 : เคเบิ้ลไทร์สเตนเลส (Stainless Steel cable tie)
เป็นเคเบิ้ลไทร์ประเภทหนึ่งที่สามารถทนความร้อนได้สูงมากๆ ผลิตจากสเตนเลส เกรด 304 และ 316 มีความกว้าง และความยาวให้เลือกใช้งานหลายขนาด จุดเด่นของเคเบิ้ลไทร์สเตนเลส คือความทนทานต่อสภาวะต่างๆ ทั้งสภาพความเป็นกรด ด่าง ความชื้นโดยไม่ถูกกัดกร่อนหรือเสื่อมคุณภาพ สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี รวมถึงยังสามารถทำงานได้ในอุณหภูมิตั้งแต่ -80°C ถึง +538°C นิยมนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไป อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมปิโตรเลียม อุตสาหกรรมนิวเคลียร์ โรงกลั่นน้ำมัน และโรงงานเคมีต่างๆ
ประเภทที่ 2 : เคเบิ้ลไทร์สเตนเลสเคลือบ
เคเบิ้ลไทร์สเตนเลสเคลือบ เป็นเคเบิ้ลไทร์ที่ผลิตจากสเตนเลสและเคลือบทับด้วยสารอื่นอีกที ซึ่งเคเบิ้ลไทร์สเตนเลสแบบเคลือบมีให้เลือกทั้งแบบเคลือบ PVC หรือ Epoxy Resin เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง ช่วยปกป้องพื้นผิวจากรอยขีดข่วนและความเสียหาย รวมถึงยังช่วยลดอันตรายจากการใช้งานได้ด้วย จุดเด่นของเคเบิ้ลไทร์สเตนเลสเคลือบ คือมีความทนทานต่อน้ำ เกลือ และสารเคมี สามารถทำงานได้ในอุณหภูมิตั้งแต่ -80°C ถึง +538°C เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่นการใช้งานทางทะเล การบินและอวกาศ และงานนอกชายฝั่ง เป็นต้น
ประเภทที่ 3 : เคเบิ้ลไทร์ ETFE (Ethylene Tetrafluoroethylene cable tie)
เคเบิ้ลไทร์ ETFE เป็นเคเบิ้ลไทร์ที่ผลิตจาก Ethylene Tetrafluoroethylene ซึ่งเป็นพลาสติกสังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติโปร่งใสเหมือนกระจกและมีความอ่อนนุ่มคล้ายผ้า แต่มีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อแรงดึงและการกัดกร่อนได้สูง เคเบิ้ลไทร์ ETFE สามารถทนความร้อนได้ถึง 150 องศาเซลเซียส และทนต่อสารเคมีและรังสีต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นเคเบิ้ลไทร์ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่าน้ำหนักของตัวเองหลายเท่าเลยทีเดียว
ประเภทที่ 4 : เคเบิ้ลไทร์ไนลอน 6/6
เป็นเคเบิ้ลไทร์ที่ผลิตจากพลาสติกที่เรียกว่าพอลิเอไมด์ (Polyamide) ซึ่งเป็นพลาสติกที่ได้จากการกระบวนการพอลิเมอร์ไรเซชันของเอไมด์และกรดอินทรีย์ ส่วนใหญ่จะเป็นไนลอน 6 หรือไนลอน 6/6 จุดเด่นของเคเบิ้ลไทร์ไนลอน 6/6 คือมีความแข็งแรงทนทาน เหนียวแน่น ทนทานต่อการฉีก ดึง ยืด ทนต่อการกัดกร่อนและการเสียดสี และทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ -40°C ถึง 85°C สามารถทนความร้อนโดยไม่สูญเสียคุณสมบัติทางกายภาพเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูงถึง 125°C และมีระดับมาตรฐานการไม่ลามไฟอยู่ที่ UL94 V2 นิยมนำไปใช้ในงานด้านอุตสาหกรรม เชิงพาณิชย์ในประเทศ ในอุตสาหกรรมด้านอากาศยานและยานยนต์
ประเภทที่ 5 : เคเบิ้ลไทร์ชนิดทนต่อแสงและรังสียูวี (UV Resistant cable tie)
เคเบิ้ลไทร์ชนิดทนต่อแสงและรังสียูวี เป็นเคเบิ้ลไทร์ที่ผลิตจากไนลอน 6/6 เหมือนกับเคเบิ้ลไทร์ไนลอน แต่ความแตกต่างจะอยู่ตรงที่มีการเติมผงคาร์บอนดำลงไปเพื่อช่วยให้มีประสิทธิภาพในการทนต่อแสงและรังสียูวีมากขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ -40°C ถึง 85°C จุดเด่นของเคเบิ้ลไทร์ชนิดทนต่อแสงและรังสียูวี คือมีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ทนทานต่อรังสูงยูวี เป็นสายเคเบิ้ลไทร์ที่มีความเหนียว บิดงอได้ ต้านทานแรงดึงและการฉีกขาดได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน นิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป ใช้ได้ทั้งงานในอาคารและงานกลางแจ้ง
ถึงแม้เคเบิ้ลไทร์ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบให้ทนทานต่อความร้อนได้ดี แต่ทางที่ดีควรเลือกประเภทของเคเบิ้ลไทร์ให้เหมาะกับความร้อนที่ใช้งานจะดีกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายตามมาในภายหลัง