ก่อนการเลือกใช้เคเบิ้ลไทร์ต้องรู้ เลือกเคเบิ้ลไทร์อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อที่จะได้เคเบิ้ลไทร์ที่เหมาะกับการใช้งาน ก็ควรเลือกประเภทของเคเบิ้ลไทร์ให้สอดคล้องกับการนำมาใช้งาน โดยมีวิธีการเลือกดังนี้
เลือกวัสดุเคเบิ้ลไทร์
เคเบิ้ลไทร์มีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดก็เหมาะกับการใช้งานแตกต่างกันไป ส่วนมากจะใช้เคเบิ้ลไทร์ที่วัสดุเป็นไนลอนเพราะมีราคาไม่แพง เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายและตอบโจทย์ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันที่สุด หากเป็นการใช้งานเคเบิ้ลไทร์ที่ต้องการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง ให้เลือกเคเบิ้ลไทร์ที่มีวัสดุทำจากสแตนเลส
เลือกความยาวของเคเบิ้ลไทร์
ควรเลือกความยาวของเคเบิ้ลไทร์ให้เหลือดีกว่าขาด เพราะสายเคเบิ้ลที่เหลือเกินออกมาสามารถตัดออก เพื่อจัดเก็บให้เรียบร้อยได้ แต่ก็ไม่ควรถึงกับเหลือไว้ยาวเฟื้อยจนสิ้นเปลือง ดังนั้นก่อนที่จะซื้อสายเคเบิ้ลไทร์ให้คุณวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของที่จะรัดก่อน ก็จะได้ความยาวของสายเคเบิ้ลไทร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
เลือกสีของเคเบิ้ลไทร์
การเลือกสีของเคเบิ้ลไทร์มาใช้งานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้คุณสะดวกในการใช้งาน และช่วยจำแนกประเภทของเคเบิ้ลไทร์ได้ด้วยจากรหัสสี นอกจากจะช่วยเรื่องความจำแล้ว เรื่องน่ารู้ของการเลือกสีเคเบิ้ลไทร์สำหรับใช้ภายในและภายนอกอาคารก็ต่างกันด้วย ส่วนมากมักจะเลือกใช้เคเบิ้ลไทร์สีดำกับงานกลางแจ้ง และเลือกใช้เคเบิ้ลไทร์สีอ่อนหรือสีขาวในที่ร่ม เนื่องจากเคเบิ้ลไทร์สีดำมีวัสดุไนลอนเป็นส่วนประกอบ 6/6 จะทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีกว่าสีอ่อน
เลือกความแข็งแรงของเคเบิ้ลไทร์
เลือกเคเบิ้ลไทร์ที่คุณต้องการเมื่อเลือกแบบที่เหมาะสม วิธีที่เราวัดค่าความต้านแรงดึงของ เคเบิ้ลไทร์คือการหาค่าความต้านทานแรงดึง ความต้านแรงดึงวัดโดยนิวตันหรือปอนด์ และโดยพื้นฐานแล้วเป็นจุดแตกหักของ เคเบิ้ลไทร์ ยิ่งมีความต้านทานแรงดึงสูงเท่าไหร่ เคเบิ้ลไทร์ก็จะยิ่งแข็งแกร่ง ตัวอย่างเช่น หาก เคเบิ้ลไทร์มีความต้านทานแรงดึง 250 ปอนด์ ก็จะต้องใช้แรงกดมากกว่า 250 ปอนด์เพื่อทำลายกลไกการสลักบนสายรัด
เลือกชนิดเคเบิ้ลไทร์
- เคเบิ้ลไทร์ไนลอน – ทำจากพลาสติกไนลอน มีความทนทานต่อสภาวะอากาศได้ ทนต่อรังสี UV มีความ ยืดหยุ่นดีสามารถบิดงอได้ ทนทานต่อแรงดึง เหมาะกับการใช้งานทั้งภายในและนอกอาคารกลางแจ้ง อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- เคเบิ้ลไทร์สเตนเลส –ทำจากโลหะไร้สนิม ทนต่ออุณหภูมิและการกัดกร่อนจากการใช้งานร่วมกับสารเคมีได้ดี มีตัวล็อกทำให้มีความแน่นหนากว่าเคเบิ้ลไทร์ไนลอน ซึ่งจะต้องใช้เครื่องมือในการดึงสายรัด เหมาะสำหรับใช้รัดสายไฟเก็บเพื่อความเป็นระเบียบ งานเดินไฟฟ้าแรงสูง ฯลฯ
- เคเบิ้ลไทร์แบบหัวลูกศร – เป็นเคเบิ้ลไทร์ที่หัวของสายรัดมีลักษณะคล้ายลูกศร ช่วยให้สายรัดยึดกันได้แน่นขึ้น เหมาะกับการใช้งานมัดเส้นลวด สายไฟ ฯลฯ
- เคเบิ้ลไทร์แบบพร้อมป้ายข้อมูล – เป็นสายรัดเคเบิ้ลไทร์ที่มีป้ายข้อมูลไว้ให้เขียนรายละเอียดต่าง ๆ ช่วยให้จำแนกหมวดหมู่ได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อเคเบิ้ลไทร์ทุกครั้ง อย่าลืมเลือกเคเบิ้ลไทร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ทำให้คุณสามารถเลือกใช้เคเบิ้ลไทร์ได้เหมาะกับการใช้งาน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เคเบิ้ลไทร์ในท้องตลาดมีมากมายให้เลือกซื้อได้ทั่วไปในท้องตลาด ซึ่งมีตั้งแต่เกรดทั่วไปและเกรดคุณภาพ รวมถึงมีราคาที่แตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ผลิต แต่สิ่งที่จะทำให้ผู้ซื้ออย่างเรามั่นใจได้ว่าจะได้เคเบิ้ลไทร์ที่มีคุณภาพดีและตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานนั้นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือความน่าเชื่อถือของแบรนด์ผู้ผลิตเคเบิ้ลไทร์
ทำไมต้องพิจารณาเลือกแบรนด์เคเบิ้ลไทร์?
แบรนด์ผู้ผลิตและจำหน่ายเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้านั้นๆ ยิ่งแบรนด์มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพยิ่งส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้อย่างไม่ลังเล แต่การที่แบรนด์นั้นจะเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้ย่อมจะต้องเป็นแบรนด์ที่จริงใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นหากจะซื้อเคเบิ้ลไทร์เพื่อการใช้งานนอกจากจะต้องพิจารณาวัตถุประสงค์การใช้งาน วัสดุ และคุณภาพของสินค้าแล้ว ควรพิจารณาด้วยว่าเคเบิ้ลไทร์นั้นถูกผลิตและจัดจำหน่ายโดยแบรนด์หรือบริษัทใด
การเลือกแบรนด์เคเบิ้ลไทร์ควรพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง?
- ความน่าเชื่อถือของแบรนด์
ความน่าเชื่อถือของแบรนด์นั้นอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่หากจะเลือกซื้อเคเบิ้ลไทร์อาจจะต้องเลือกจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง แบรนด์คุ้นหูคุ้นตาและเป็นที่รู้จักทั่วไปในท้องตลาด นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วย
- คุณภาพ (Quality) ของเคเบิ้ลไทร์และแบรนด์นั้นๆ
- ความเชี่ยวชาญ ความซื่อสัตย์ และความน่าคบหาของแบรนด์นั้นๆ
- การตอบสนองความต้องการที่ตรงจุด
- จุดแข็งที่เหนือกว่าคู่แข่งแบรนด์อื่น
- มาตรฐานของแบรนด์
พิจารณาว่าแบรนด์เคเบิ้ลไทร์นั้นๆ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานการผลิต มาตรฐานของสินค้า ตลอดจนมาตรฐานด้านคุณภาพเมื่อมีการขยายสาขาหรือเฟรนไชส์ต่างๆ ซึ่งหากแบรนด์ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานใดๆ อาจไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อซื้อเคเบิ้ลไทร์จากแบรนด์นั้นไปจะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
- การรับประกันสินค้า
สำหรับเคเบิ้ลไทร์บางประเภทที่มีคุณสมบัติของวัสดุและการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง เช่น เคเบิ้ลไทรแบบซิป เคเบิ้ลไทร์ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนสำหรับใช้งานภายนอกอาคาร ควรมีการรับประกันสินค้าอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพว่าหากใช้งานไปแล้วสินค้าเกิดการชำรุดเสียหายหรือหลุดเสป็กทางแบรนด์จะมีการเคลมสินค้าหรือคืนเงินให้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน
- รีวิวจริงจากผู้ใช้งาน
หากจะซื้อสายเคเบิ้ลมาใช้งานสักครั้ง ย่อมต้องอยากรู้ว่าแบรนด์เหล่านั้นมีคุณภาพดีหรือไม่และประสบการณ์ของผู้ใช้ท่านอื่นเป็นอย่างไร เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อเคเบิ้ลไทร์จากแบรนด์นั้นๆ นอกจากนี้รีวิวบางประเภทยังเป็นการบอกข้อดีและข้อเสีย รวมถึงวิธีใช้งานเคเบิ้ลไทร์เอาไว้อย่างละเอียด จึงทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าจะสามารถซื้อสินค้ามาถูกประเภทและใช้งานได้ถูกวิธี
นอกจากนี้ ความง่ายในการเข้าถึงแบรนด์ก็มีความสำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความง่ายในการติดต่อกับแบรนด์กรณีที่เกิดปัญหาด้านการใช้งาน ความง่ายในการชำระเงิน รวมถึงความง่ายในขั้นตอนการสั่งซื้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์เคเบิ้ลไทร์นั้นๆ อำนวยความสะดวกเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายนั่นเอง ดังนั้นหากจะเลือกซื้อเคเบิ้ลไทร์อาจจะต้องมองไปถึงตัวแบรนด์และบริการของแบรนด์นั้นๆ เพื่อให้ได้ประสบการณ์การซื้อสินค้าและได้รับบริการที่ดีที่สุด