เคเบิ้ลไทร์ คือ สายรัดที่ผลิตจากวัสดุพอลิเมอร์ที่เรียกว่า พอลิเอไมด์ (ไนลอน 6/6) ความกว้าง ความยาว และพื้นที่ส่วนหัวใช้กลไกของเฟืองล้อหยัก ซึ่งจะช่วยให้สามารถล็อกสิ่งของต่าง ๆ ที่จำเป็นต้อง “มัดรวม” เข้าด้วยกันได้
เริ่มมีการนำไนลอนมาใช้ผลิตเป็นเคเบิ้ลไทร์ในเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2481 ซึ่งถือว่าเป็นพอลิเมอร์กึ่งผลึกสังเคราะห์ชนิดแรกที่มีคุณสมบัติทางกายภาพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับโลหะบางชนิด พอลิเมอร์ชนิดนี้มีความแข็งแรงสูง ทนต่ออุณหภูมิได้ดีช่วยให้สามารถใช้งานได้ดีใน “ทางวิศวกรรม” ดังนั้น เคเบิ้ลไทร์ไนลอนจึงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มพอลิเมอร์ประเภทที่เรียกว่า “พลาสติกวิศวกรรม” ไนลอนผลิตจากสารในตระกูลเรซินหรือยาง ซึ่งเป็นกลุ่มสารประกอบอินทรีย์ที่ประกอบด้วยธาตุ C, H, O และ N ที่เรียกว่า เอไมด์ -CONH- จากนั้น วัสดุเหล่านี้จะถูกทำให้เป็นพอลิเมอร์ ซึ่งเป็นกระบวนการทางเคมีที่เชื่อมมอนอเมอร์เอไมด์ขนาดเล็กเข้าด้วยกันเป็นสายพอลิเมอร์ยาว แล้วเรียกว่า พอลิเอไมด์
ไนลอนมีคุณสมบัติที่โดดเด่นโดยเฉลี่ยเท่า ๆ กันทั้งในเรื่องของความแข็งแรง ความแข็ง ช่วงอุณหภูมิในการใช้งาน และมีความเหนียวในระดับสูง เคเบิ้ลไทร์ไนลอนมีความทนทานเป็นพิเศษต่อการกระทบกระแทกซ้ำ ๆ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำ และความทนทานต่อการสึกกร่อนหรือการขัดถูได้ดีเยี่ยม ไนลอนมีความทนทานต่อเชื้อเพลิง สารหล่อลื่น และสารเคมีส่วนใหญ่ แต่ถูกทำร้ายได้ง่ายโดย ฟีนอล กรดแก่ และตัวออกซิไดซ์ ไนลอนมีความไวต่อสภาวะแวดล้อมโดยธรรมชาติ ในการผลิตเคเบิ้ลไทร์จะถูกทำให้มีความชื้นมากขึ้นเพื่อให้ได้ระดับประสิทธิภาพสูงสุด ผลิตภัณฑ์เคเบิ้ลไทร์ไนลอนควรเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น อย่าให้โดนแสงแดดโดยตรง และปิดผนึกอยู่ในซองของบรรจุภัณฑ์เดิม มาตรการเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเคเบิ้ลไทร์ให้ใช้งานได้ยาวนานและคงทน
- ไนลอนอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับการใช้งานที่อุณหภูมิต่อเนื่องสูงถึง 85°C ไนลอน 6/6 ซึ่งเป็นเกรดที่ใช้บ่อยที่สุดในการผลิตเคเบิ้ลไทร์ ที่ได้มาตรฐานการลามไฟ UL 94V-2 มีช่วงอุณหภูมิในการทำงานอยู่ระหว่าง -40°C – 85°C
- ไนลอนทนความร้อน 6/6 (Heat Stabilized Nylon 6/6) แบบพิเศษ จะใช้ในสภาพการใช้งานที่สัมผัสกับอุณหภูมิสูงอย่างต่อเนื่องหรือยาวนาน เพิ่มความทนทานต่อความร้อน (สูงถึง 125°C) ออกแบบมาเพื่อการสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูง อย่างต่อเนื่อง
- ไนลอนทนต่อรังสียูวี 6/6 (UV Stabilized Nylon 6/6) ใช้ในสภาพการใช้งานกลางแจ้งอย่างต่อเนื่องหรือเป็นเวลายาวนาน เคเบิ้ลไทร์ชนิดนี้เป็นเกรดที่ทนทานต่อสภาพอากาศ ซึ่งทนต่อแสงอัลตราไวโอเลต (UV) เพิ่มเติม เกรดนี้ผลิตขึ้นจากการรวมสารคงสภาพเข้าไว้ในไนลอนเรซิน เคเบิ้ลไทร์ไนลอนทนรังสียูวีมีให้เฉพาะสีดำเท่านั้น
- ไนลอน 12 (Nylon 12) ได้รับการออกแบบมาโมเลกุลพิเศษ สำหรับการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้ทนทานต่อแสงแดดที่รุนแรงและองค์ประกอบกลางแจ้งที่โหดร้าย มีการดูดซึมน้ำและความหนาแน่นต่ำ ช่วยรักษาความมั่นคงแข็งแรงไว้ และทนต่อสารเคมีระยะยาว ทนทานต่อการเกิดรอยแตกร้าว/หักขาดจากสิ่งแวดล้อม
วัสดุและคุณลักษณะของเคเบิ้ลไทร์ค่อนข้างมีลักษณะเฉพาะพิเศษตั้งแต่เคเบิ้ลไทร์แบบหนึ่งไปจนถึงอีกแบบหนึ่ง ลูกค้าสามารถแจ้งให้เราทราบได้หากต้องการความช่วยเหลือในการเลือกเคเบิ้ลไทร์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ
ขนาดของเคเบิ้ลไทร์
เคเบิ้ลไทร์มีให้เลือกหลายขนาดความยาว และมีให้เลือกหลายขนาดความกว้าง ทำให้น่ากังวลเมื่อต้องตัดสินใจว่า ขนาดและความแข็งแรงแบบใดดีที่สุดสำหรับงานที่ทำอยู่
เราจะมาพิจารณาดูกันที่ขนาดต่าง ๆ ที่มีให้อย่างละเอียดมากขึ้น และอธิบายศัพท์เฉพาะหรือภาษาเฉพาะวงการ เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางของมัดรวม และความทนต่อแรงดึง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกเคเบิ้ลไทร์ที่เหมาะสมกับงานได้
วัดขนาดเคเบิ้ลไทร์อย่างไร?
เคเบิ้ลไทร์ความยาวเป็นหน่วยมิลลิเมตร (บางประเทศเรียกหน่วยแบบนิ้ว) ความยาวของเคเบิ้ลไทร์จะวัดตั้งแต่ส่วนหัวไปถึงส่วนหางของเคเบิ้ลไทร์ และความกว้างจะวัดจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของตัวเคเบิ้ลไทร์
ขนาดเคเบิ้ลไทร์ทั่วไปขายดีที่ดีที่สุด คือ 250 มม. ซึ่งก็คือขนาด 10 นิ้ว อย่างไรก็ตาม ขนาดที่เลือกใช้ได้นั้นมีตั้งแต่ 100 – 1,200 มม.
เส้นผ่านศูนย์กลางของมัดรวม (Bundle Diameter) คืออะไร?
เคเบิ้ลไทร์ส่วนใหญ่ที่ซื้อมาสำหรับใช้งานในบ้านคือขนาด 250 มม. หรือสั้นกว่านี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อสั่งซื้อเคเบิ้ลไทร์ก็คือ ขนาดของสายเคเบิลต่าง ๆ ที่คุณจะรัด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลมที่เคเบิ้ลไทร์จะปิดรัดได้นั้นใหญ่เพียงพอสำหรับใช้งานหรือไม่ ซึ่งปกติแล้วการวัดขนาดนี้จะหมายถึง เส้นผ่านศูนย์กลางของมัดรวมของสายต่าง ๆ ที่บรรจุเป็นรูปวงกลม เคเบิ้ลไทร์ส่วนที่เกินมักจะถูกตัดออกหลังการติดตั้ง ดังนั้น เคเบิ้ลไทร์ที่ยาวเกินไปจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาเช่นเดียวกับเคเบิ้ลไทร์ที่สั้นเกินไป! หากคุณไม่แน่ใจ แนะนำให้เลือกแบบที่ยาวกว่า
ความทนต่อแรงดึง (Tensile Strength) ของเคเบิ้ลไทร์คืออะไร?
ความทนต่อแรงดึงเป็นการวัดระดับความต้านทานหรือน้ำหนักที่เคเบิ้ลไทร์สามารถทนได้โดยที่วัสดุไม่เกิดข้อขัดข้องหรือเกิดความผิดพลาดภายใต้การดึง หน่วยวัดมักจะเป็นกิโลกรัม หรือปอนด์
ความทนต่อแรงดึงขั้นต่ำจะแสดงในฉลาก หรือข้อมูลทางเทคนิคของเคเบิ้ลไทร์ สิ่งนี้หมายถึงความแข็งแรงขั้นต่ำที่เคเบิ้ลไทร์รับได้ก่อนที่จะหักขาดภายใต้น้ำหนักที่บรรทุก ในความเป็นจริงโดยทั่วไปแล้ว เคเบิ้ลไทร์ที่มีคุณภาพจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าความแข็งแรงที่ระบุไว้บนฉลาก
ค่าความทนต่อแรงดึงของเคเบิ้ลไทร์จะแตกต่างกันไป โดยจะขึ้นอยู่กับความกว้างของเคเบิ้ลไทร์เป็นหลัก ถึงแม้เคเบิ้ลไทร์จะมีความยาวต่างกัน แต่ถ้าความกว้างของเส้นเท่ากัน จะรับน้ำหนักได้ไม่แตกต่างกัน
เคเบิ้ลไทร์มีขนาดใดบ้างและเคเบิ้ลไทร์ใดที่แข็งแรงที่สุด?
สำหรับเคเบิ้ลไทร์ไนลอนมาตรฐาน เคเบิ้ลไทร์ที่เล็กที่สุดที่ทางบริษัทฯ จำหน่ายมีความยาวเพียง 80 มม. และกว้าง 2.5 มม. ซึ่งทำให้เคเบิ้ลไทร์เหล่านี้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการพื้นที่ใช้งานน้อยกว่าเคเบิ้ลไทร์ขนาดอื่นๆ
ในแง่ของความทนต่อแรงดึงสูงสุด ต้องยกให้กับเคเบิ้ลไทร์สเตนเลสขนาด 1000 มม. x 7.9 มม. เป็นเคเบิ้ลไทร์ที่แข็งแรงที่สุดสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 166 กก. ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานหนักทางอุตสาหกรรม
ความยาวของเคเบิ้ลไทร์
เคเบิ้ลไทร์มีความยาวตั้งแต่ 3 – 60 นิ้ว (ทางแบรนด์ YORU จำหน่ายปัจจุบันจะยาวสูงสุด 30 นิ้ว) แม้ว่าการเลือกใช้งานจะดูที่ความยาวของเส้น แต่ต้องแน่ใจว่าได้วัดเส้นผ่านศูนย์กลางของมัดสายเคเบิลที่คุณจะรัดเป็นอย่างดีด้วย เนื่องจากเคเบิ้ลไทร์จะถูกตัดออกหลังการติดตั้ง จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่หากจะซื้อเคเบิ้ลไทร์สายยาวมาอีกสักหน่อย(เพิ่มราคาอีกหน่อยสบายใจกว่าเยอะ) คงไม่อยากให้เกิดกรณีรู้ในนาทีสุดท้ายว่าเคเบิ้ลไทร์ที่ซื้อมาสั้นเกินกว่าจะใช้งานได้
จะระบุความยาวของเคเบิ้ลไทร์ที่ต้องการได้อย่างไร?
เนื่องจากหางของเคเบิ้ลไทร์สามารถถูกตัดออกหลังจากรัดแล้ว จึงไม่ใช่ปัญหาหากเคเบิ้ลไทร์ยาวเกินไป อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เคเบิ้ลไทร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงขอแนะนำให้ซื้อเคเบิ้ลไทร์ที่ไม่ยาวเกินไป เพื่อไม่ให้ต้นทุนค่าดำเนินการสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ความยาวของเคเบิ้ลไทร์ที่คุณต้องการสำหรับงานของคุณขึ้นอยู่กับเส้นรอบวงของสายเคเบิลต่าง ๆ (หรือสิ่งของอื่น ๆ) ที่คุณต้องการมัดเข้าด้วยกัน ให้คำนึงถึงความยาวเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เผื่อไว้ในกรณีที่ต้องใช้งานจริง